วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เลียบเลาะชายทุ่ง

ทุ่งนา แต่เมื่อก่อน ไม่ได้เป็นทุ่งเลี่ยนโล้นเหมือนกับท้องทุ่งในสมัยนี้ อย่างน้อยก็มี ป่าละเมาะ ป่าไผ่หรือไม้ยืนต้น พอให้เป็นร่มเงากับคนเดินทางหรือทำรังของฝูงนกประจำถิ่น ยามเย็นสัก 5 โมงเย็น จะมีนกบินโฉบเฉวียนออกพุ่มนี้ไปพุ่มโน้น ส่งเสียงให้เจี้ยวจ้าว บ้างก็ทะเลาะหรือเกี่้ยวพาราสีกันก็ไม่แน่ใจ แต่บ่งบอกได้เพียงว่า ได้เวลากลับรังของนกทั้งหลาย ป่าละเมาะริมชายทุ่งนี้เอง เป็นแหล่งอาหารสำคัญของทั้งคนและสัตว์คนไหนช่างสังเกตุหรือมีคนนำ ก็จะได้หน่อไม้ เห็ดหอบ เห็ดเผาะ หรือ มังลอกเอาไปทำอาหาร ป่าละเมาะริมชายทุ่งจะผลิตอาหารแต่ละชนิดให้กับท้องถิ่นไปตามฤดูกาลของมัน ป่าละเมาะริมชายทุ่งไม่ใช่ให้เฉพาะอาหารเท่านั้น มันเป็นมากกว่านั้น เป็นแหล่งหาไม้ทำรั้วหรือทำฟืน เป็นที่เลี้ยงสัตว์ในยามที่นายังมีต้นข้าวอยู่ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ทุกสิ่งทุกอย่างเกื้อกูลกันทั้งมองเห็นและทั้งที่เราไม่ตระหนักถึง รวมทั้งการรักษาระดับน้ำใต้ดินด้วย
ทุกวันนี้ คนได้เล็งเห็นความสำคัญของป่าละเมาะ ที่เรียกกันใหม่ว่า ป่าชุมชน (หลังจากที่ป่าได้ถูกทำลายไปเกือบไม่เหลือซากพร้อมๆกับการสูญพันธุ์ของพืชและสัตว์อีกหลายชนิด) จะช้าไปบ้าง สำหรับชุมชนส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่สายเกินไปสำหรับอีกหลายๆชุมชน

วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

หอยกาบกับวิถีคนชายคลอง

วันนี้..ไม่ได้พูดหยาบ เพียงพูดถึง หอยกาบที่มีอยู่ทั่วไปตามคลองและแม่น้ำ เมื่อสมัยก่อนๆ ที่ต้องย้ำว่า สมัยก่อนๆ เพราะว่า ทุกวันนี้ คุณจะหาหอยกาบได้ยากมาก หอยกาบ เป็นหอยน้ำจืดมีขนาดออกจะเขื่องกว่าหอยลาย แต่เล็กกว่าหอยแมงภู่ หอยกาบนั้น ดูจะไม่คุ้มค่ากับการนำมาทำอาหารสักเท่าไร ถ้ามีปลาหรืออาหารอย่างอื่นที่ง่ายกว่า เพราะหอยกาบมีเนื้อน้อย ถามว่ารสชาดเป็นอย่างไร หอยกาบก็หอม อร่อยกว่าหอยแมงภู่แน่นอน สมัยที่แม่น้ำลำคลองยังสะอาด เด็กๆ ลงเล่นน้ำไม่เสียเปล่า หาเก็บหอยกาบที่ฝังในทราย (โผล่มานิดนึง) ตามทรายหรือเลนแม่น้ำ หรือ เลนในคลอง เอามาต้มแล้วแยกเอาเนื้อไปตากแห้ง เก็บไว้ผัดใส่ผักยี่หร่า หรือ ช้าพลูกินกับข้าวอร่อยดี เป็นที่ชื่นชอบหรืออาหารโปรดของเด็กๆ ถ้าปีไหน น้ำดีก็มีหอยกาบมาก จึงพบทั้งในหนองน้ำกลางทุ่ง ท่าน้ำริมแม่น้ำและลำคลอง แต่พอเหนือแม่น้ำมีคนอยู่อาศัยมากขึ้น หอยกาบก็ค่อยๆหายไป จนในที่สุดแม่น้ำวังทองที่รับน้ำจากลำน้ำเข็กน้อย เข็กใหญ่จากเทือกเขาเพชรบูรณ์สะอาดไม่พอเสียแล้ว หอยกาบจึงสูญพันธุ์ไปจากแม่น้ำสายนี้ รวมไปถึงลำคลอง หนองบึงในทุ่งนา ก็ไม่มีหอยกาบอีกเลย เหมือนๆกับ ทุ่งนาที่ไม่มีอีกแล้วสำหรับ หอยโข่ง เพราะถูกหอยเชอรี่เบียดออก และยังถูกซ้ำเติมด้วยยาฆ่าแมลงเข้าไปด้วย 
หอยกาบ..สูญไปจากท้องทุ่งและวิถีชีวิตคนชายคลอง เหมือนๆกับหอยโข่ง หอยขวาน ไปอ่านบทความหนึ่งจึงได้ทราบว่า หอยกาบเป็นตัวชี้วัดคุณภาพน้ำได้เป็นอย่างดี มิน่าเล่า มันถึงสูญพันธุ์ไปจากวิถีชนบท ไม่ใช่ว่าเขาเอาไปทำ Indicator หรอก แต่เพราะคุณภาพของน้ำไม่ดีพอสำหรับมัน