วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ฤดูน้ำหลาก ความสุขที่เปลี่ยนไป

   ฤดูน้ำหลาก เป็น คำที่ผมรำลึกเอง แล้วทำไมจึงบอกว่า เป็นความสุขหละ เมื่อยังเป็นเด็ก เป็นชีวิตที่ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ เว้นแต่ การเรียน การถูบ้าน การอาบน้ำ และ กลับมากินข้าวในตอนเย็นให้ทันเวลา ฤดูน้ำหลาก นั้น ไม่น่าจะมีในพจนานุกรม
   ฤดูน้ำหลาก เป็นช่วงหนึ่งในฤดูฝน ที่มีน้ำหลากมาจากภูเขาหรือที่สูงกว่า น้ำจะไหลท่วมล้นคันนาเป็นตอนๆ ตรงไหนที่คันนาขาด เจ้าของนากับเพื่อนบ้าน ก็จะไปช่วยกันซ่อมแซม อาจมีข้าวที่ถูกน้ำพัดเสียหายบ้าง แต่ไม่มาก น้ำหลาก มักเป็นคุณกับชาวนามากกว่า ด้วยว่า มีปลามากมายมากับสายน้ำ ชาวนาจะมีอาหารการกินสมบูรณ์ก็ตอนนี้ บางคนที่มีข่ายดักปลา ก็สบายกว่าคนอื่น เพราะวางเย็น เช้ามาเก็บ ได้ปลาตัวเขื่องๆดี แต่ที่นิยม ก็คือ การวางหลี่ตรงน้ำไหล จะได้ปลาตัวเล็กตัวน้อยไปจนถึงปลาช่อนขนาดข้อมือ ปลาน้อยก็เอามาทำ ปลาจ่อม ปลาเห็ด กระปิ น้ำปลา มีอาหารตุนไว้สำหรับลงแขกเกี่ยวข้าว
   ฤดูน้ำหลาก จึงเป็นคุณกับชาวนา และเป็นที่สนุกสนานของเด็กๆ เพราะมีน้ำมากมายให้เล่น มีปลาให้จับ มีปลากัดเลี้ยงไว้กัดกัน
   ฤดูน้ำหลากนั้น น้ำจะไหลเอ่อท้นคันนามาเรื่อยๆ มองเห็นขาวดาดเป็นสายๆ ตรงที่น้ำข้ามคันนา แต่ น้ำที่หลากมานั้น ใสพอสมควร เพราะผ่านการกรองจากหลายๆ ป่า พอมีคนบอกว่ามีน้ำหลาก ผู้ใหญ่ดีใจ เพราะข้าวอุดมดี เด็กๆดีใจ เพราะจะได้เล่นน้ำ หาปลา ได้กินปลาเห็ด
   แต่น้ำหลาก ณ วันนี้ ต่างออกไป กลายเป็น น้ำท่วม น้ำที่ท่วมนั้นทั้งขุ่นข้น มีเศษซากนานาประการ ที่สำคัญ ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า
   ฤดูน้ำหลาก จึงไม่มีให้เห็นอีกแล้ว มีแต่น้ำท่วม

วันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ยอดปรารถนา