วันเสาร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2553

การละเล่นของเด็กเลี้ยงควาย 1

การละเล่นของเด็กเลี้ยงควาย 1
การละเล่นของเด็กๆ สำหรับเด็กผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อนหรือฤดูหนาว ไม่ว่าจะที่โรงเรียนหรือเลี้ยงควายในวันหยุด จะนิยมสะสมฝาหอยโข่งหรือเรียกว่า เบี้ย เลือกเฉพาะเบี้ยที่มีรูปทรงสมบูรณ์ นำมาเล่นโยนเบี้ย การเล่นโยนเบี้ย ก็คล้ายๆกับผู้ใหญ่ ที่นิยมเอาเหรียญสลึง เหรียญห้าสิบสตางค์ (เหรียญบาทไม่นิยมเล่น เพราะเงินบาทหนึ่งมีค่ามากแล้ว) มาโยนหลุมกินเงินกัน วิธีเล่นโยนหลุมของผู้ใหญ่ก็แล้วแต่จะตกลงกัน พื้นที่เล่นจะเป็นตามลานดินที่วัดหรือตามร้านเจ๊กก็ตามแต่สะดวก โดยทั่วไปใช้สตางค์แดงฝังเสมอหรือต่ำกว่าดินเล็กน้อย ให้ทุกคนลงเค้ากันในหนึ่งเกมส์ เช่น ตาละห้าสิบสตางค์หรือบาท กี่คนก็เอามารวมกัน แล้วมาจับสลากว่าใครจะได้โยนก่อน วิธีการโยนนั้น จะต้องเรียงเหรียญ(ที่มีขนาดเท่ากัน) ให้เหลื่อมกันพอที่เอานิ้วหัวแม่โป้งกดเบาๆ นิ้วชี้และนิ้วกลางประคอง แล้วโยนให้ได้เหลี่ยมและน้ำหนัก ใครที่โยนแล้วเหรียญเรียงกัน ถ้าสัมผัสสตางค์แดงยิ่งดี ถือว่าเข้าหลุม เหรียญที่จะจายออกมา (เหรียญที่โยนถูกยากที่สุด) จะถูกผู้เล่นด้วยกันบังคับให้โยนเหรียญแม่ของผู้โยนให้ถูก โดยต้องไม่ไปถูกเหรียญใดๆ ถ้าโยนถูกก็จะได้กินทั้งกอง ถ้าไม่ถูก จะได้กินเฉพาะที่อยู่ในหลุม แต่ถ้าโยนไปถูกเหรียญอื่นๆ ถือว่าถูกปรับ ต้องเพิ่มเงินลงกองกลาง การละเล่นแบบนี้ นิยมเล่นกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ใครมือดีคนนั้นก็ได้ไป การละเล่นแบบนี้นี่เองที่ระบาดมายังเด็กๆนักเรียนและเด็กเลี้ยงควาย คือ การเล่นโยนเบี้ย คือใช้เบี้ยแทนเหรียญสลึงเหรียญห้าสิบสตางค์ แต่เบี้ยเองก็มีค่าในการแลกเปลี่ยนกับหนังสะติ้กหรือลูกกระสุนดิน ในสมัยก่อนเบี้ยหรือฝาหอยโข่งนั้น ต้องไปหาเก็บตามริมบึงที่มันตายแล้วหรือเฉพาะบ้านที่มีพ่อบ้านไปหาปลาในบึง แล้วเก็บหอยโข่งมาทำอาหาร ใครที่เล่นเก่งๆก็จะเป็นที่ยกย่องในหมู่เด็กๆด้วยกัน